พิธีสงฆ์ในงานแต่งงาน: การเริ่มต้นชีวิตคู่ด้วยสิริมงคลตามวิถีพุทธ
พิธีสงฆ์ในงานแต่งงาน ถือเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของพิธีมงคลสมรสตามประเพณีไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับครอบครัวที่นับถือพระพุทธศาสนา พิธีนี้ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของข้อกำหนดทางกฎหมายในการสมรส แต่เป็นพิธีกรรมทางศาสนาที่มุ่งเน้นการสร้าง ความเป็นสิริมงคล การ ทำบุญร่วมกัน ของคู่บ่าวสาว และการ ขอพร จากพระสงฆ์เพื่อการเริ่มต้นชีวิตคู่ที่ราบรื่น มีความสุข และความเจริญรุ่งเรือง
ความสำคัญและวัตถุประสงค์ของพิธีสงฆ์ในงานแต่งงาน:
- สร้างความเป็นสิริมงคล: เป็นหัวใจหลักของพิธี เชื่อว่าการนิมนต์พระสงฆ์มาเจริญพระพุทธมนต์และให้พร จะช่วยปัดเป่าสิ่งอัปมงคล และนำมาซึ่งโชคลาภ ความสุข ความเจริญแก่คู่บ่าวสาวและครอบครัว
- ทำบุญร่วมขันธ์: การถวายภัตตาหารและเครื่องไทยธรรมแด่พระสงฆ์ ถือเป็นการทำบุญใหญ่ร่วมกันครั้งแรกในฐานะคู่สามีภรรยา เป็นการสร้างกุศลส่งเสริมให้ชีวิตคู่มีความสุขความเจริญ
- รับศีลรับพร: การรับศีล 5 จากพระสงฆ์ เป็นการเตือนสติให้คู่บ่าวสาวใช้หลักธรรมในการดำเนินชีวิตคู่ และการได้รับพรจากพระสงฆ์ถือเป็นกำลังใจและเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจในการเริ่มต้นชีวิตใหม่
- แสดงความเคารพต่อพระรัตนตรัยและผู้ใหญ่: การจัดพิธีสงฆ์เป็นการแสดงความศรัทธาในพระพุทธศาสนา และมักเป็นการทำตามความประสงค์ของผู้ใหญ่ในครอบครัว ซึ่งถือเป็นการแสดงความกตัญญูและความเคารพ
- สืบทอดประเพณีอันดีงาม: เป็นการรักษาและสืบทอดวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงามของไทยให้คงอยู่ต่อไป
ขั้นตอนโดยทั่วไปของพิธีสงฆ์ในงานแต่งงาน:
พิธีสงฆ์ในงานแต่งงานมักจัดขึ้นในช่วงเช้า ณ บ้านของเจ้าภาพ หรือสถานที่จัดงานที่เตรียมไว้ โดยมีลำดับขั้นตอนหลักๆ ดังนี้:
- การเตรียมงาน:
- นิมนต์พระสงฆ์ (นิยมจำนวน 9 รูป ถือเป็นเลขมงคล) ล่วงหน้า
- จัดเตรียมสถานที่: อาสนะสำหรับพระสงฆ์, โต๊ะหมู่บูชาพร้อมเครื่องสักการะ (พระพุทธรูป ดอกไม้ ธูป เทียน)
- เตรียมเครื่องใช้ในพิธี: สายสิญจน์, ขันน้ำมนต์ เทียนทำน้ำมนต์, ที่พรมน้ำมนต์, เครื่องไทยธรรมหรือสังฆทาน, ภัตตาหารสำหรับถวายพระ (หากนิมนต์ฉันเช้าหรือเพล)
- เตรียมอุปกรณ์สำหรับคู่บ่าวสาว: ชุดตักบาตร (กรณีตักบาตรร่วมขันธ์), ธูปเทียนแพสำหรับขอขมา (บางธรรมเนียม)
- ลำดับพิธี:
- พระสงฆ์เดินทางมาถึง: คู่บ่าวสาวและเจ้าภาพรอต้อนรับ แสดงความเคารพ นำพระสงฆ์ไปยังอาสนะที่จัดเตรียมไว้
- คู่บ่าวสาวจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย: ทั้งคู่จุดธูปเทียนที่โต๊ะหมู่บูชา กล่าวคำบูชาพระรัตนตรัย
- อาราธนาศีล: พิธีกรหรือตัวแทนฝ่ายเจ้าภาพ กล่าวคำอาราธนาศีล 5
- พระสงฆ์ให้ศีล: ประธานสงฆ์ให้ศีล 5 คู่บ่าวสาวและผู้ร่วมพิธีกล่าวรับศีลตาม
- อาราธนาพระปริตร: พิธีกรหรือตัวแทน กล่าวคำอาราธนาพระปริตร (นิมนต์สวด)
- พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์: พระสงฆ์สวดบทเจริญพระพุทธมนต์ที่เป็นมงคล เช่น บทมงคลสูตร ชัยมงคลคาถา ฯลฯ ขณะสวด คู่บ่าวสาวพนมมือฟังด้วยความเคารพ อาจมีการโยงสายสิญจน์จากพระพุทธรูปมายังบาตรน้ำมนต์ และมายังคู่บ่าวสาว (บางครั้งจะสวมมงคลแฝดในช่วงนี้)
- (อาจมี) ตักบาตรร่วมขันธ์: หากจัดเตรียมไว้ คู่บ่าวสาวจะตักบาตรร่วมกัน ถวายแด่พระสงฆ์
- ถวายภัตตาหาร: คู่บ่าวสาวและญาติผู้ใหญ่ ประเคนภัตตาหารแด่พระสงฆ์ (กรณีพระสงฆ์ฉันภัตตาหาร)
- ถวายเครื่องไทยธรรม/สังฆทาน: หลังพระสงฆ์ฉันเสร็จ หรือหลังสวดมนต์เสร็จ คู่บ่าวสาวถวายเครื่องไทยธรรมแด่พระสงฆ์ทีละรูป หรือถวายเป็นสังฆทาน
- พระสงฆ์อนุโมทนา: ประธานสงฆ์กล่าวสัมโมทนียกถา (ให้โอวาทเกี่ยวกับการครองเรือน) และสวดบทอนุโมทนา (ยถา สัพพี…)
- คู่บ่าวสาวกรวดน้ำ: ขณะพระสงฆ์สวดบทอนุโมทนา คู่บ่าวสาวรินน้ำกรวดอุทิศส่วนกุศล
- ประพรมน้ำพระพุทธมนต์และเจิม: ประธานสงฆ์ประพรมน้ำพระพุทธมนต์ให้แก่คู่บ่าวสาวและผู้ร่วมพิธี และมักจะทำการเจิมแป้งที่หน้าผากของคู่บ่าวสาวเพื่อความเป็นสิริมงคลสูงสุด
- ส่งพระสงฆ์: คู่บ่าวสาวและเจ้าภาพกราบลาและส่งพระสงฆ์กลับวัด
ข้อควรทราบ:
- พิธีสงฆ์เป็นคนละส่วนกับ พิธีหลั่งน้ำพระพุทธมนต์และประสาทพร (รดน้ำสังข์) ซึ่งเป็นพิธีที่ญาติผู้ใหญ่และแขกเหรื่ออวยพรคู่บ่าวสาว แต่ทั้งสองพิธีมักจัดขึ้นในวันเดียวกัน โดยพิธีสงฆ์จะทำก่อน
- รายละเอียดปลีกย่อยอาจแตกต่างกันไปบ้างตามธรรมเนียมปฏิบัติของแต่ละท้องถิ่นหรือแต่ละครอบครัว
- สิ่งสำคัญที่สุดคือเจตนาอันบริสุทธิ์ของคู่บ่าวสาวในการทำบุญและเริ่มต้นชีวิตคู่ด้วยความเป็นมงคล
พิธีสงฆ์ในงานแต่งงานจึงมิใช่เพียงประเพณีที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาเท่านั้น แต่ยังเป็นการผสมผสานความเชื่อ ความศรัทธา และความปรารถนาดี เพื่อให้การเริ่มต้นชีวิตคู่ของบ่าวสาวนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข ความเจริญ และดำเนินไปบนหนทางแห่งคุณงามความดีตามหลักพระพุทธศาสนาสืบไป